[vc_row][vc_column][vc_column_text]พวงหรีดนั้นเริ่มมีบทบาทเกี่ยวกับพิธีศพของไทยในช่วงสมัยรัตนโกสินทร์นี่เอง และธรรมเนียมนี้แต่ดั้งเดิมก็ไม่ใช่ของไทยเป็นของชาวตะวันตก สังคมไทยได้รับเอาวัฒนธรรมนี้มาใช้ในการร่วมไว้อาลัยและผสมกลมกลืนกับวัฒนธรรมดั้งเดิมของไทยจนทำให้เราแยกไม่ออกเลยว่าอันไหนเป็นวัฒนธรรมจากชาติไหน เมื่อเราทำตาม ๆ กันมาจึงเกิดเป็นธรรมเนียมปฏิบัติส่งผลให้ความต้องการพวงหรีดในวันนี้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และนั่นจึงนำไปสู่การพัฒนาการของกิจการร้านพวงหรีดในปัจจุบัน ที่แข่งขันกันผลิตพวงหรีดที่ตอบโจทย์ความต้องการของสังคมมากยิ่งขึ้น
พวงหรีดในรูปแบบดั้งเดิมนั้น เริ่มมีพัฒนาการมาจากพวงหรีดที่ทำจากดอกไม้สด ต่อมาแบบดอกไม้สดเริ่มตอบสนองความต้องการได้ไม่ดีนัก เพราะอยู่ได้ไม่กี่วันก็จะแห้งเฉา จึงเปลี่ยนมาเป็นพวงหรีดดอกไม้ประดิษฐ์และก็มีใช้ควบคู่กับแบบดอกไม้สดเรื่อยมา แต่ทว่าพอเป็นพิธีศพของบุคคลที่มีชื่อเสียง จะมีการใช้พวงหรีดเป็นจำนวนมาก พวงหรีดทั้งสองแบบนี้จึงเริ่มสร้างปัญหาให้กับวัด คนที่ต้องดูแลจัดการและเริ่มขยายออกมาเป็นปัญหาขยะที่ส่งผลกระทบต่อสังคม เพราะทำให้สิ่งแวดล้อมเกิดมลภาวะ ร้านพวงหรีดต่าง ๆ เริ่มมองเห็นปัญหาเหล่านี้ จึงเริ่มปรับเปลี่ยนและพัฒนาพวงหรีดรูปแบบใหม่ ๆ ออกมาอีก เริ่มมีพวงหรีดที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้ อย่างพวงหรีดพัดลม พวงหรีดนาฬิกา พวงหรีดจักรยาน และแบบอื่น ๆ อีกมากมายที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาที่กระทบกับสภาพแวดล้อมและสังคม จะเห็นว่าผู้ประกอบการร้านพวงหรีดเริ่มปรับเปลี่ยนตนเองให้ออกมาเป็นธุรกิจเพื่อสังคมมากขึ้น
ในระยะต่อมาผู้ประกอบการร้านพวงหรีดเริ่มปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ของตนเองอีกครั้ง เพราะเริ่มพบว่าพวงหรีดแบบที่เพิ่มอรรถประโยชน์ในรูปแบบต่าง ๆ บางครั้งก็ไม่ตอบโจทย์กับทางวัดหรือผู้ที่ต้องจัดการเมื่อเสร็จงาน วัดบางวัดอาจไม่ได้ต้องการพัดลม หรือ นาฬิกา ผู้ประกอบการร้านพวงหรีดจึงพัฒนาอีกครั้ง โดยมองความต้องการของสังคมแบบเชิงลึกมากขึ้น พวกเขาเริ่มหันมาทำพวงหรีดแบบใหม่ โดยใช้กระดาษรีไซเคิล เพราะแนวคิดที่ต้องการให้ธุรกิจตอบสนองความต้องการของสังคมได้จริง จึงเริ่มจริงจังกับการพัฒนาในจุดนี้ เพราะการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่ใช่เพียงเพราะเรื่องสิ่งแวดล้อม แต่พวกเขายังต้องการสร้างชุมชนและสังคมให้เข้มแข็งด้วยการสร้างงานสร้างอาชีพ จากการระดมคนในชุมชนมาช่วยกันทำพวงหรีดจากกระดาษรีไซเคิลเหล่านี้ด้วยนั่นเอง
ทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจร้านพวงหรีดเป็นหนึ่งธุรกิจเล็ก ๆ ที่มีความคิดไม่เล็กเลย พวงกเขาสนใจเรื่องของสังคมมากกว่าที่เรามองเห็น จึงอาจเรียกได้ว่าเป็นต้นแบบของธุรกิจเพื่อสังคมตัวจริงเสียงจริงเลยก็ว่าได้ ใครที่สนใจปรับเปลี่ยนธุรกิจตนเองมาเป็นธุรกิจเพื่อสังคมแบบนี้บ้าง ลองดูแนวทางจากธุรกิจร้านพวงหรีดไว้ก็ได้ สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับหลายธุรกิจได้เลยทีเดียว[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row]